Review:รีวิว ZTE Blade S7 สมาร์ทโฟนวัสดุพรีเมียม สีสันสดใส

สวัสดีครับกลับมาเจอกันอีกครั้งเช่นเดิม ผมลุงยาม สายโหด รอบนี้มากับน้องหมวยขาวจากค่าย ZTE ที่พกความสดใส ซาบซ่า พร้อมผลงานพรีเมี่ยมของแท้เลย นั้นคือ ZTE Blade S7 นั้นเองครับ

เปิดตัวมาได้ซักพักใหญ่แล้วครับสำหรับ ZTE Blade S7 มีจำหน่ายที่ Jaymart และ TG Phone สีที่จำหน่ายตอนนี้จะมีให้เลือก 4 สีได้แก่สีขาว, ดำ, เขียว, ทอง เดี๋ยวมาดูสเป็คคร่าวๆกันก่อน ก่อนจะไปดูรายละเอียดปลีกย่อยอีกที

สเปคของ ZTE Blade S7

ขนาดจอ IPS 5 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920×1080 (441ppi)
รองรับ 3G HSDPA 850 / 900 / 2100
4G LTE 850 / 900 / 1800 / 2100 (สังเกตุดูว่า 4G 900 ก็มีมาด้วย)Dual SIM
Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Mifavor UI
CPU Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Quad-core 1.5 GHz
GPU Adreno 405
RAM 3 GB
ROM 32 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ Micro SD ได้สูงสุด 64GB
Fingerprint scanner (สแกนนิ้ว)
EyePrint ID (สแกนม่านตา)
กล้องความละเอียด 13MP ทั้งด้านหน้าและหลัง
แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh
ขนาดตัวเครื่อง 142 x 67 x 7.2 มม. น้ำหนัก 131 กรัม
ราคาจำหน่าย 9,900 บาท

วัสดุและการออกแบบ

แกะกล่องก่อนหล่ะกัน ว่ามีอะไรมาให้บ้างในกล่อง

ตัวเครื่อง ZTE Blade S7 พร้อมแบ็ตฝังอยู่ในตัวเครื่องขนาด 2500 mAhไม่สามารถแกะเปลี่ยนเองได้เด้อ
สายดาต้า/สายชาร์ท เส้นเดียวกันแต่พิมพ์ให้มันดูอลังการงั้นๆครับ สายที่ให้มาก็อยู่ในเกรดดี
เข็มจิ้มซิมการ์ด
อะแดปเตอร์ แบบ 1A.
คู่มือและใบรับประกัน (ส่วนหูฟัง ตามแบบฉบับมือถือค่ายจีนส่วนมากจะไม่ให้มา และรุ่นนี้ก็เช่นกันจ้า)

การออกแบบและเลือกใช้วัสดุ ผมว่า ZTE Blade S7 ทำออกมาได้ดีมาก ดีเกินคาดไว้ด้วยซ้ำครับ การเลือกใช้กระจกแบบ 2.5D ทั้งสองด้าน หน้า/หลัง ตัดขอบด้านข้างด้วยวัสดุแบบโลหะงานประกอบก็เรียบร้อยและแข็งแรงดี ช่วยให้มันดูสวยงามน่าหยิบใช้งาน แถมมีสีสันสดใสให้เลือกใช้ตามความชอบของคนซื้ออีก ใครชอบสมาร์ทโฟนสวยๆวัสดุดี สีหวานๆ ตัวนี้เลยครับแนะนำ

ด้านบนตัวเครื่องจะมีรูเล็กๆคือ ไมค์ตัดเสียงรบกวน กับช่องต่อหูฟังแบบ 3.5 mm.

ด้านล่างตัวเครื่อง ช่องฝั่งซ้ายจะเป็นลำโพงตัวเครื่อง ตรงกลางจะเป็นช่อง Micro USB ไว้ซิงค์ข้อมูลและชาร์จไฟ และรูเล็กๆคือไมค์สนทนา และช่องขวามือสุด ไม่มีอะไรครับ ไม่ใช่ลำโพงคู่ แต่เป็นการออกแบบให้ดูดีแค่นั้น

ฝั่งขวาของตัวเครื่อง จะมีปุ่มกดเพิ่ม-ลดระดับเสียงและ ปุ่ม Power และถัดลงมาจะเป็นช่องใส่ MicroSD และซิมการ์ด

ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ ไฮบริด ถาดแรกเลือกใช้งานระหว่างใช้สองเบอร์ (Nano Sim) หรือเพิ่มหน่วยความจำ MicroSD สามารถเพิ่มได้สูงสุด 64GB ส่วนอีกถาดใช้ซิมแบบ (Micro Sim)

ส่วนฝั่งซ้าย ไม่มีปุ่มใดๆครับ ปล่อยโล่ง รอบตัวเครื่องเป็นโลหะเคลืบสีอีกที(ตามสีตัวเครื่อง)พร้อมตัดขอบข้างๆเพื่อความสวยงามและลบคมวัสดุ

ด้านหลังจะเป็นกระจกแบบ 2.5D ด้านบนซ้ายจะเป็นเลนส์กล้อง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และไฟแฟรช 1 ดวง มาพร้อมกับระบบโฟกัสแบบ เลเซอร์โฟกัส

ทดลองจับขณะใช้งาน กระชับมือดีครับ ขอบจอบางมากๆ ทำให้ตัวเครื่องเล็กไปด้วยเช่นกัน

CPU / RAM / ROM

ZTE Blade S7 มากับ CPU Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & quad-core 1.0 GHz Cortex-A53/GPU Adreno 405 การใช้งานทั่วไปมันเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอนครับ แต่พอเอามาเล่นเกมส์กับหน้าจอความละเอียดสูง GPU มันไม่ไหว มีหน่วงบ้างเวลาเล่นเกมส์ 3D โหดๆ แต่สำหรับเกมส์ทั่วไปก็เล่นได้ครับ ส่วนใครไม่เล่นเกมส์มองข้ามจุดนี้ไปได้เลย ไม่มีปัญหาในการใช้งานใดๆแน่นอน

RAM 3 GB ถือว่าให้มาเยอะนะ เปิดเครื่องลงแอ๊พเสร็จ ยังเหลือเกือบ 2GB หมดห่วงเรื่องการเปิดแอ๊พค้างไว้

ROM 32GB ไม่แบ่งพาร์ทิชั่นมา เหลือให้ใช้จริง 23GB สามารถเพิ่มด้วย Micro SD ได้ถึง 64 GB

Android / Interface / Feature

ZTE Blade S7 มากับ Android 5.1.1 ครอบทับด้วย Mifavor UI หน้าตา UI สามารถปรับแต่งได้นิดหน่อย สวยดีครับ การใช้งานถือว่าลื่นดี หน้าจอรองรับมัลติทัช 10 จุด

หน้าตา Mifavor UI

การปรับแต่ง วอลเปเปอร์ / ไอคอน / เอฟเฟ็กต์ ต่างๆก็สามารถทำได้และเข้าไปปรับตั้งค่าได้ง่าย

Smart Gesture ก็มีมาให้ใช้งานครบครัน การปลุกหน้าจอ / โหมดกระเป๋า และการใช้งานอื่นๆอีกมากมาย เลือกปรับตั้งได้ตามใจเรา

อีกหนึ่งความภูมิใจที่อยากนำเสนอสำหรับ ZTE Blade S7 ที่มีมาให้ใช้งาน นั้นคือ ระบบยืนยันตัวบุคคลแบบไบโอเมตริก

การยืนยันตัวตนแบบ Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ สแกนได้รวดเร็วมาก ความแม่นยำถ์อว่าสูงจริง เท่าที่ลองระบบนี้ ชื่นชอบมากๆ สะดวกจริง รองรับการบันทึก 5 ลายนิ้วมือ เลือกการเข้าถึงได้หลายระดับตั้งแต่ ล็อคหน้าจอยันแอ๊พพิเคชั่นต่างๆ

EyePrint ID ตรวจสอบด้วยดวงตา(สแกนม่านตา) ลูกเล่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนในบ้านเรา การใช้งาน อาจช้าไปนิด ถ้าต้องการใช้งานจริง ต้องใจเย็นๆ เพ่งเข้าไปข้างหน้าให้ตรงๆ ผมสวมแว่นก็สามารถสแกนได้นะ

CAMERA / MUSIC

กล้องหน้าและหลัง ความละเอียดเท่ากันครับที่ 13 ล้านพิกเซล มีแฟรชทั้งกล้องหน้าและหลังเช่นกัน แต่กล้องหลังจะเหนือกว่าหน่อยตรง ระบบโฟกัสแบบเลเซอร์โฟกัส โฟกัสเร็วและแม่นยำดี

เมนูกล้องดูเรียบง่าย แต่ก็แอบมีโหมด(PRO)แมลนวลมาให้ใช้งานพอประมาณ สามารถปรับตั้งค่าในส่วนของ สปีดชัตเตอร์, ISO, ชดเชยแสง, ไวท์บาลานซ์, ระนาบภาพถ่าย(ภาพถ่ายจาก ZTE Blade S7 อยู่ล่างสุด)

MUSIC แอ็พฟังเพลงที่ติดมากับตัวเครื่องถือว่าคุณภาพดีครับ เสียงดีใช้ได้เลย สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้เช่นกัน การแสดงผลหน้าจอ ปกศิลปินและภาษาไทย ทำออกมาได้สวยงาม รุ่นนี้มี วิทยุ FM มาให้ใช้งานด้วยนะ(สามารถบันทึกเสียงได้ขณะฟัง) แต่ต้องใช้งานร่วมกับสายหูฟัง

VIDEO แอ๊พที่ให้มากับตัวเครื่อง ผมว่าหน้าจอมันดูมืดไปนิด พอลงแอ๊พเพิ่มเติมอย่าง MX Player ช่วยทำให้หน้าจอแสดงผลได้สวยงามมากขึ้น และถอดรหัสเสียงได้เกือบครบทุกตัว (แนะนำโหมดเพิ่ม)

สรุป ZTE Blade S7

ข้อดี

มีระบบ Fingerprint scanner สแกนนิ้วที่รวดเร็ว
ระบบใหม่ที่มีให้ลองใช้งานคือ EyePrint ID ตรวจสอบด้วยดวงตา
การออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ดีมากๆ งานประกอบที่แข็งแรง มีสีให้เลือกเยอะดี
จอแสดงผลได้สวยงาม และสู้แสงได้ดีเมื่อใช้งานนอกอาคาร และขอบจอบาง ทำให้ตัวเครื่องเล็กไปด้วย
กล้องผมถือว่าสวยเลยนะ ทั้งหน้าและหลัง
รองรับ 4G LTE คลื่น 900 ด้วย

ข้อสังเกตุ

เนื่องจากการออกแบบ uni body และใช้วัสดุแบบโลหะ ความร้อนจะเกิดเมื่อใช้งานหนักๆ เจอแบบนี้ทุกค่ายเลยครับไม่เฉพาะ ZTE Blade S7
เมื่อเป็น uni body ก็หมดสิทธิ์เปลี่ยนแบ็ตเองได้
แบตเตอร์รี่น้อยไปนิด แต่ก็ชดเชยด้วยความบางของตัวเครื่องเหลือแค่ 7.2 มม
ในกล่องไม่มีหูฟังมาให้ใช้งาน

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 9,900 บาท ราคาอาจจะดูสูงไปนิดถ้าเทียบกับคู่แข่งหลายๆค่ายในตอนนี้ แต่ตัวนี้มีจุดเด่นคือระบบ Fingerprint scanner และ EyePrint ID น่าจะชูจุดเด่นตรงนี้ได้เพราะค่ายอื่นยังไม่มีระบบ EyePrint ID และการออกแบบรวมไปถึงวัสดุ ดูดีมากๆครับ จอก็แสดงผลได้สวยจริง

ภาพจากกล้องZTE Blade S7