รีวิว ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) โน้ตบุ๊กสองหน้าจอขนาด 14.5 นิ้ว 2.8K 120 Hz OLED เครื่องแรกของโลก Intel Core i7-12700H มาตรฐาน Intel EVO platform + RTX3050Ti

ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED โน๊ตบุ๊คที่เอาใจสายครีเอเตอร์ที่เน้นการทำงานแบบมัลติทาสก์ เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุด Intel Core i7-12700H ผ่านมาตรฐาน Intel EVO platform หน้าจอหลัก 14.5 นิ้ว 2.8K , Refresh Rate 120 Hz OLED เครื่องแรกของโลก และหน้าจอที่สองสัมผัสได้ ScreenPad Plus ขนาด 12.7 นิ้ว 2.8K , Refresh Rate 120 Hz เช่นกันกับจอหลัก รองรับการใช้งานสำหรับโปรแกรมตระกูล Adobe ได้เต็มประสิทธิภาพ

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยชิปกราฟฟิคแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti Laptop GPU และ Intel Iris Xe Graphics หน่วยความจำให้มาแบบจุใจ RAM 16 GB LPDDR5 หน่วยเก็บข้อมูล 1TB M.2 NVMe PCIe 4.0 สามารถอ่านและเขียนข้อมูลความเร็วสูง ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ เทคโนโลยี AAS Ultra เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน เพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้มากขึ้นถึง 38% หมดกังวลเมื่อใช้งานเป็นเวลานานๆ ตัวเครื่องผ่านการรับรองความทนทานมาตราฐานทางการทหารของสหรัฐฯ MIL-STD-810H

ตัวเครื่อง ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) ยังติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home&Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน

SPEC ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE)

• หน้าจอหลัก 14.5” 2.8K 2880 x 1800 พิกเซล OLED Refresh Rate 120 Hz อัตราส่วน 16:10  PANTONE® Validated Touch screen
• จอ ScreenPad Plus ขนาด 12.7 นิ้ว 2.8K 2880 x 864 พิกเซล IPS , Refresh Rate 120 Hz
• หน้าจอรองรับการทัชสกรีนและเขียนผ่านปากกา ASUS Pen 2.0 ทั้งสองหน้าจอ
• CPU Intel Core i7-12700H
• GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti Laptop GPU และ Intel Iris Xe Graphics
• RAM 16GB LPDDR5 on board
• หน่วยเก็บข้อมูล 1TB M.2 NVMe PCIe 4.0
• Wi-Fi 6E + Bluetooth 5.2
• Web Camera : HD IR Camera
• Thunderbolt 4 x 2
• ลำโพงจาก harman/kardon พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
• ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home&Student 2021
• ราคา 74,990.- บาท

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

โดยปกติโน๊ตบุ๊คซีรี่ย์นี้จะเน้นการออกแบบที่เรียบหรูและมากับประสิทธิภาพตัวเครื่องสูงพร้อมใช้งาน ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) ฝาหลังวัสดุอลูมิเนี่ยมปัดเงาแบบ Anti-Fingerprint เพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ ปัดลายให้เกิดเงาแสงสะท้อนดูสวยงามพร้อมกับโลโก้ใหม่

สีจะเป็นสีใหม่นะครับทาง ASUS เรียกว่าสี TechBlack สีจะออกไปทางโทนดำแต่ไม่ได้ดำแบบสนิท

หน้าจอหลักแบบ NanoEdge ที่ขอบจอทั้งสี่ด้านมีขอบบางพิเศษ ขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K 2880 x 1800 พิกเซล OLED Refresh Rate 120Hz / 0.2 ms ถือว่าเป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้จอสเปคนี้ อัตราส่วน 16:10 รองรับการแสดงค่าสีแบบ 10Bit HDR , Dolby Vision ค่าขอบเขตสี 100% DCI-P3 , ค่าความสว่างที่ 500nits ผ่านการรับรองจาก PANTONE Validated และ TÜV Rheinland certified ถือว่าให้จอมาดีที่สุดในตลาดแล้วครับกับเรทราคานี้

หน้าจอที่สองหรือจอ ScreenPad Plus ขนาด 12.7 นิ้ว 2.8K 2880 x 864 พิกเซล IPS , Refresh Rate 120Hz ทั้งสองหน้าจอรองรับการทัชสกรีนและเขียนผ่าน ปากกา ASUS Pen 2.0

เอาใจสายครีเอเตอร์ที่ใช้โปรแกรมตระกูล Adobe เพราะเมื่อเปิดโปรแกรมใช้งานหน้าจอ ScreenPad Plus จะขึ้นหน้าต่างเครื่องมือพิเศษมาให้ใช้งาน เพิ่มความสะดวกสบายและช่วยย่นเวลาในการทำงานได้เยอะเลย แต่ละโปรแกรมหน้าตาเครื่องมือจะแตกต่างกันออกไปนะครับ

และเรายังสามารถใช้จอ ScreenPad Plus ไว้ใช้งานได้หลากหลายหน้าที่มาก สามารถเปิดเป็น Touchpad Mode ได้ด้วยนะครับ

ระบบระบายความร้อนเทคโนโลยี AAS Ultra เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน เพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้มากขึ้นถึง 38% และจะช่วยยกจอ ScreenPad Plus ให้มีองศามุมมองที่ดีกว่าเดิม

ขนาดตัวเครื่อง 32.35 x 22.47 x 1.79 ~ 1.96 ซม. น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม

คีบอร์ดและทัชแพด

แป้นพิมพ์ ASUS ErgoSense ปุ่มมีความโค้งมนเข้ากับสรีระของนิ้วสัมผัสขนาด 0.2 มม. ระยะห่างของแต่ละปุ่มที่ 1.4 มม. ลดการพิมพ์ที่ผิดพลาด แป้นพิมพ์มีไฟ LED มาให้ ปรับความสว่างได้ 3 ระดับ , ทัชแพดแบบ ErgoSense เคลือบผิวสัมผัสแบบ PVD เพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ (Anti-fingerprint touchpad)

พอร์ตการเชื่อมต่อ

รอบนี้ ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) ให้พอร์ตการเชื่อมต่อมาแบบจุใจมาก ฝั่งด้านขวาก่อนเลย จะมากับ Thunderbolt 4 USB-C ทั้งหมดสองช่อง และพอร์ต USB 3.2 Gen 2 Type-A

ฝั่งซ้ายจะมี Audio Combo jack มาให้หนึ่งพอร์ต และจะมีช่องระบายความร้อน

ด้านหลังตัวเครื่องจะมี HDMI 2.1 / ช่องอ่าน SD Card และ DC-in

ประสิทธิภาพการทำงาน

ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) จะมาพร้อมกับชิปประมวลผลเจนใหม่ล่าสุด และใช้เป็น H ซีรี่ย์ด้วยครับที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเต็ม ตัวเครื่องยังผ่านมาตราฐาน Intel EVO platform 3.0 ด้วย มั่นใจได้ว่าได้เครื่องที่ให้เต็มประสิทธิภาพแน่นอน เพราะกว่าจะผ่านมาตราฐานนี้ต้องผ่านการทดสอบหลากหลายรูปแบบกันเลยทีเดียว

ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุด Intel Core i7-12700H แบบ 6P+8E Core / 20 Threads ความเร็วสูงสุด 4.70 GHz / กราฟฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti Laptop GPU และ Intel Iris Xe Graphics

หน่วยความจำ

• RAM 16GB LPDDR5 on board
• หน่วยเก็บข้อมูล 1TB M.2 NVMe PCIe 4.0 ที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วมาก

พอผ่านมาตราฐาน Intel EVO platform ไม่ว่าจะเป็นระบบ AI เข้ามาช่วยทั้งเรื่องเสียงสัญญาณรบกวนรอบข้าง และทาง ASUS เองก็มี AI effects ช่วยปรับฉากหลังเวลาประชุมผ่านวิดีโอ ตัวเครื่องมาพร้อมกับ WiFi 6E และ Thunderbolt 4 รองรับการชาร์จไฟแบบ PD ด้วยนะครับ

คะแนนประสิทธิภาพของตัวเครื่อง

ตัวเครื่องจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home&Student 2021 แท้มาให้พร้อมใช้งาน และยังเป้นสมาชิก Ado Creative Cloud ฟรี 3 เดือน

และยังมีโปรแกรม MyASUS สำหรับการตั้งค่าการใช้งานของตัวเครื่อง สามารถปรับตั้งค่าได้ละเอียดมากๆครับเวอร์ชั่นนี้

แบตเตอรี่

ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) ติดตั้งแบตเตอรี่มาให้ที่ 76WHrs สามารถใช้งานได้ 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งรอบ และแถมอะแดปเตอร์ 180W มาให้ใช้งาน ขนาดและน้ำหนักถือว่าพกพาได้ครับ

สรุป

สำหรับ ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8402ZE) นอกจากตัวเครื่องที่ดูพรีเมี่ยมแล้ว สเปคที่อัดแน่นทั้งหน้าจอและชิปประมวลผลรุ่นใหม่ เครื่องเดียวจบๆครับ ส่วนตัวที่ชอบสุดคือการเข้ากันของฮาร์ดแวย์และซอฟแวย์ โดยเฉพาะครีเอเตอร์ที่ทำงานผ่านโปรแกรมตระกูล Adobe น่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เปรียบเสมือนมีเครื่องมือช่วยในการทำงานให้ง่ายยิ่งขึ้น

ถ้าเน้นใช้งานแต่งภาพหรือตัดต่อเล็กๆน้อยๆ เลเยอร์ไม่ซัพซ้อน เอารุ่น UX8402ZA-M3701WS ที่ราคา 59,990 บาท ก็พอเพียงแล้วครับกับการใช้งานทั่วไป ฟังก์ชั่นต่างๆทำงานได้เหมือนกัน แต่ถ้าอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพ เน้นงานตัดต่อวิดีโอจัดตัวนี้ไปเลย 74,999 บาท ถือว่าคุ้มครับ

***สำหรับ ASUS Zenbook Pro ทุกรุ่นในตอนนี้ มาพร้อมการรับประกัน ASUS Exclusive Care ครอบคลุมการบริการซ่อมถึงที่ (on-site service) 3 ปี, ประกันระหว่างประเทศ 57 ประเทศทั่วโลก และประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีเต็ม  พร้อมรับสมาชิก Ado Creative Cloud® ฟรี เป็นระยะเวลาสามเดือน