รีวิว MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งจอ 120Hz INTEL CORE I7-10750H + GTX1650TI MAX-Q ใหม่ล่าสุด

MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH Gaming Notebook ที่มากับหน้าจอขนาด 15.6″ Full HD 120Hz Refresh Rate และเลือกใช้หน่วยประมวลผลตัวใหม่ล่าสุด 10th Gen Intel Core i7-10750H พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti Max-Q สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น หน่วยความจำ RAM 16 GB/ Hard Disk 512GB NVMe PCIe SSD และแน่นอนว่าตัวเครื่องมี Windows 10 แท้พร้อมใช้งาน ตัวเครื่องรับประกัน 2 ปี ค่าตัว 33,900 บาท จะน่าสนใจมากน้อยขนาดไหนเดี๋ยวไปดูกันได้เลย

SPEC MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH

• Display : 15.6″ FHD (1920*1080), IPS-Level 120Hz Thin Bezel
• Processor : Comet lake i7-10750H+HM470
• Chipset : Intel HM470
• Memory : DDR IV 8GB*2 (2666MHz)
• Graphics : GTX1650 Ti Max Q, GDDR6 4GB
• Hard Disk : 512GB NVMe PCIe SSD
• Keyboard : Single backlight KB(Red)
• WLAN : Intel Wi-Fi 6 AX201(2*2 ax) + BT5
• BT : Support 5.1
• Battery : 3 cell , 51Whr
• OS : Windows 10 Home
• Warranty : 2 Year Warranty

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

1. ตัวเครื่อง MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH
2. adapter พร้อมสายไฟ AC
3. คู่มือการใช้งาน
4. ตัวยึด SSD กรณีอัพเกรดตัวเครื่อง

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH มากับหน้าจอ IPS ขนาด 15.6″ Full HD 1920×1080 พิกเซล 120Hz Refresh Rate จอแบบด้าน Anti-Glare ช่วยป้องกันแสงสะท้อน จอแสดงผลได้สวยงามทีเดียวครับและรองรับการเล่นเกมเฟรมเรทสูงๆด้วย / Thin bezel design ขอบจอด้านข้างบางเป็นพิเศษ ขอบจอบางเพียง 4.9 มม. ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงไปด้วย เหนือบริเวณขอบจอจะมีกล้อง Web Camera ความละเอียด HD มาให้

ฝาหลังและด้านในจะวัสดุจะเป็น Aluminum ปัดเงาดูสวยงาม โทนสีจะใช้สีดำด้านตัดกับคีบอร์ดสีแดงให้อารมณ์ความเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คได้ดีทีเดียว ตำแหน่งตรงกลางของฝาหลังจะมีโลโก้สัญลักษณืของทาง MSI มาให้

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับดูดลมเข้าไปช่วยระบายความร้อน กินพื้นที่เยอะพอสมควร ลมร้อนจะถูกพัดออกด้านหลังและด้านข้างว้ายของตัวเครื่อง

ขนาดตัวเครื่อง บางเพียง 21.7 มม. และมีน้ำหนักเพียง 1.56 กิโลกรัม เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สามารถพกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้สบายๆ

พอร์ตการเชื่อมต่อ

ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อฝั่งด้านซ้ายจะมี ช่องไฟ AC-POWER และ USB 3.1

ฝั่งด้านขวาจะมีช่อง mic และช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม.(แยกกัน) / USB 3.1 x2 / USB Type-C และ พอร์ต LAN

ฝั่งด้านหลังจะเป็นพอร์ต HDMI ถ้าสังเกตุโดยรอบด้าน โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้พอร์ตมาใช้งานแบบครบครันกันเลยทีเดียว

คีบอร์ด/ทัชแพด

คีบอร์ดของ MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH จะเป็นแบบ Full Sizeแต่ด้วยขนาดตัวเครื่องมีขนาดเล็กเลยตัดส่วนของนัมแพดออกไป ส่วนปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆยังมีมาให้ใช้งานครบครันเช่นเดิม และมีไฟแบบ Single backlight คือไฟโทนสีแดงสีเดียวครับ สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ ฟิลลิ่งของปุ่มกดถือว่าดีพอสมควร

ในส่วนของทัชแพดจะเยื้องไปทางฝั่งซ้ายมือ ขนาดปานกลางครับไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ทัชได้ไหลลื่นและแม่นยำดี

ประสิทธิภาพการทำงาน

MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH มากับหน่วยประมวลผลใหม่ล่าสุด 10th Gen Intel Comet lake i7-10750H แบบ 6 Coer / 12 Threads ค่า TDP max ที่ 45W. เป็นชิปประมวลผลตัวใหม่ที่ให้ผลคะแนนและการจัดการความร้อนได้ดีมากๆ หน่วยความจำ RAM DDR5 8×2 GB (2666MHz) / Hard Disk : 512GB NVMe PCIe SSD

การ์ดจอจะมีการ์ดจออนบอร์ด Intel UHD Graphics 630 และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti Max-Q สามารถเล่นเกมได้ดีและตัวเครื่องแทบจะไม่ร้อนเมื่อเล่นเป็นเวลานานๆ

เท่าที่ผมทดลองเล่นเกม พัดลมตัวเครื่องถือว่าดังพอประมาณครับ แต่มันระบายความร้อนได้ดีมากๆ เล่นในห้องแอร์ระดับ 23-25 องศา ความร้อน GPU ที่ได้อยู่ราวๆ 65 องศาเท่านั้นเอง

ระบบปฎิบัติการ

MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH มาพร้อมกับ Windows 10 Home ของแท้พร้อมใช้งาน และจะมีซอฟแวย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานมาให้

NAHIMIC 3 ซอฟต์แวร์ช่วยยกระบบเสียงให้ดียิ่งขึ้น สามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับสภาพของการทำงาน เช่น ทำงาน ดูหนัง เล่นเกม เป็นต้น

Dragon Center 2.0 สามารถเข้าไปตั้งค่าต่างๆของรอบพัดลมและโหมดการใช้งานต่างๆได้ และยังสามารถดูสถานะการทำงานของเครื่องได้ด้วยครับ

แบตเตอรี่

MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH ให้แบตเตอรี่มาแบบ 3 cell , 51Whr สามารถใช้งานได้ 6-7 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน แต่ถ้าเปิดใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพจะใช้งานได้ราวๆ 2.30-3 ชั่วโมงครับ ส่วน adapter ที่ให้มาขนาดเล็กสามาถพกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้เช่นกัน

สรุป

MSI GF63 THIN 10SCSR-220TH ถึงจะมากับรูปลักษณ์เดิมของซีรี่ย์นี้ แต่ภายในได้อัดสเปคมาให้ใหม่แถมแรงกว่าเดิมเยอะพอสมควรครับ Intel Core i7 Gen10 ใหม่ล่าสุด และรุ่นนี้ได้อัพเกรดจอไปที่ 120Hz Refresh Rate เรียบร้อยแล้ว รองรับการเล่นเกมเฟรมเรทสูงๆได้ดีขึ้นกับค่าตัว 33,900 บาท ประกันยาวถึง 2 ปี ถือว่าคุ้มครับผม