เมื่อวานเราได้เห็นการทดสอบความแรงของ Ryzen 9 7950X3D กันไปแล้วนะครับ ต้องบอกเลยว่ารอบนี้ที่ AMD นำเทคโนโลยี 3D V-Cache มาใส่ในซีพียูท็อป ๆ แบบนี้ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์ทั้งการเล่นเกมและการทำงาน แต่ถ้าเราต้องการเล่นเกมเพียว ๆ ทางเลือกอื่นอาจจะเหมาะกว่านะ
สำหรับซีพียูที่ผมพูดถึงนั้น คือ Ryzen 7 7800X3D ต่อยอดความสำเร็จจาก Ryzen 7 5800X3D ซึ่งน่าจะเล่นเกมได้ดีกว่า Ryzen 9 7950X3D และ 7900X3D เนื่องจากว่า Ryzen 9 จะมีแกนประมวลผล 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่แปะด้วย V-Cache และกลุ่มที่ไม่ได้แปะด้วย V-Cache
ในขณะที่ Ryzen 7 7800X3D จะมีแกนประมวลผลแค่กลุ่มเดียว (1 CCD) และแปะด้วย V-Cache ดังนั้น ถ้าแกนประมวลผลทำงานแค่ส่วนที่แปะด้วย V-Cache ก็น่าจะช่วยเร่งความแรงและลดความร้อนได้ดีกว่า แต่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทาง Techpowerup จึงจับ Ryzen 9 7950X3D มาปิดกลุ่มแกนประมวลผลที่ไม่ได้แปะด้วย V-Cache ออกไป
เริ่มต้นที่การทดสอบด้านการจัดการพลังงาน จากการทดสอบทั้งหมด 13 เกมบนความละเอียด 1080p พบว่า ประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงาน (Frames per Watt) พบว่า Ryzen 9 7950X3D ที่ปิด 1 CCD (Ryzen 7 7800X3D) ทำได้ดีที่สุด รองลงมาคือ Ryzen 9 7950X3D ธรรมดา ที่ตั้งค่าเน้นให้เลือกใช้แกนประมวลผลที่แปะด้วย V-Cache
จะเห็นได้ว่า ในการทดสอบแต่ละเกมนั้น ตัวซีพียูจะกินไฟเฉลี่ย 46.1 วัตต์เท่านั้น ถือว่าใช้พลังงานค่อนข้างน้อยเลยทีเดียว
ทีนี้เรามาดูด้านการเล่นเกมอย่างเดียวบ้าง จากการทดสอบเกม 13 เกม บนความละเอียด 1080p ผลปรากฏว่า Ryzen 9 7950X3D ที่ปิด 1 CCD (Ryzen 7 7800X3D) จะแรงกว่า Intel Core i9-13900K ราว 2-3% แต่ถ้าเป็นาการทดสอบบนความละเอียด 1440p และ 4K ก็จะด้อยกว่าเล็กน้อยครับ
ซึ่งตรงนี้เราคงต้องมารอดูกันว่า AMD จะวางขาย Ryzen 7 7800X3D ในราคาเท่าไร (แต่คาดว่าจะเปิดตัว 6 เมษายนนี้ ในราคาราว 15,700 บาท) เพราะถ้าเปิดมาราคาไม่แรงมาก แต่ความแรงและการกินไฟทำได้ดีขนาดนี้ ก็เป็นซีพียูเกมมิ่งที่น่าลงทุนอย่างยิ่งเลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wccftech, Techpowerup
You must be logged in to post a comment.