ในยุคที่อากาศเต็มไปด้วยมลภาวะมากมาย แถมล่องลอยทะลุเข้ามาในบ้านเราได้ด้วย อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งวันนี้แอดมีเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ Safe มาแนะนำให้พ่อบ้าน-แม่บ้านชาว Extreme IT ได้เลือกซื้อกันถึง 2 รุ่น จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยครับ
สำหรับรุ่นที่แอดเลือกมานั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ Safe Airry Extra และ Airry Flow เรียกได้ว่าเป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องเลยก็ได้นะ แต่ไม่ว่าจะรุ่นใหญ่หรือรุ่นก็มีฟังก์ชันมาให้ใช้กันแบบจัดเต็ม เดี๋ยวแอดจะขอโชว์รุ่นพี่ก่อนว่ามีฟังก์ชันเด็ด ๆ อะไรบ้าง
Safe Airry Extra ฟอกอากาศจัดหนัก พร้อมกลิ่นอโรมาหอมชื่นใจ
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงฟังก์ชันภายใน เดี๋ยวแอดพาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องกันก่อน จุดเด่นของ Safe Airry Extra คือ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ให้เราสามารถสั่งการได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แสดงผลตัวเลขชัดเจนพร้อมไฟบอกสถานะต่าง ๆ รวมถึงตัวเลขบอกค่า PM 2.5 แม้ตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็มีมือจับให้เราขนย้ายได้สะดวกขึ้นครับ
ระบบไส้กรองของ Safe Airry Extra โดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นเป็นพิเศษ เพราะเขามีไส้กรองมาให้แบบ 4in1 ได้แก่ PP Prefilter, SilverNano, Activated Carbon และ HEPA H13 ซึ่งไส้กรองของเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์อื่นส่วนมากจะให้มาแค่ 3 ส่วน ไม่มีส่วนของ Silver Nano ที่ช่วยยับยั้งเชื้อโรคครับ
กำลังในการฟอกอากาศของ Safe Airry Extra หรือค่า CADR จะทำได้ที่ 450 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ จะอยู่ที่ราว ๆ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง Safe Airry Extra จึงสามารถฟอกอากาศในห้องของเราได้เร็วภายในเวลาเพียง 8 นาที เหมาะกับพื้นที่ห้องขนาด 31-62 ตารางเมตร
ฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ให้มาก็ถือว่าครบครันเลยทีเดียว มีทั้งโหมด Sleep, Auto และ Child lock (ป้องกันเด็กเล็กไปกดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ) ปรับความแรงพัดลมได้ถึง 4 ระดับ และเรายังตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องได้ด้วย ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าดีมาก ช่วยประหยัดค่าไฟได้เยอะ เผื่อบางทีเราต้องออกไปนอกบ้านแต่อยากฟอกอากาศไว้สักพักหนึ่ง พอครบชั่วโมงให้เครื่องตัดการทำงานได้เองเลย
แต่อันที่แอดชอบมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นกลิ่นอโรมาที่เครื่องทำออกมา ไม่ใช่เพียงแค่ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับสภาวะแวดล้อมในห้องให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีก สุดยอดดดด
Safe Airry Flow รุ่นน้องสเปกรุ่นพี่
มาต่อกันที่เครื่องฟอกอากาศรุ่นน้องอย่าง Safe Airry Flow แม้จะเป็นรุ่นน้องที่ตัวเครื่องเล็กกว่า แต่ฟังก์ชันครบไม่ต่างจากรุ่นพี่เลยนะครับ เดี๋ยวเรามาไล่กันทีละอย่างเลยว่ามีจุดเด่นตรงไหนบ้าง
สำหรับตัวเครื่องของ Safe Airry Flow จะไม่มีจอแสดงผลแบบสัมผัส แต่สามารถควบคุมได้ง่ายจากปุ่มทางด้านบน ตัวเครื่องดูเล็กกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาด 21-48 ตารางเมตร
ระบบไส้กรองของ Safe Airry Flow ยังเป็นแบบ 4in1 เหมือนของรุ่นพี่ ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องฟอกอากาศแบรนด์อื่นในท้องตลาดที่อยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ถือว่าไส้กรองของ Safe Airry Flow ล้ำหน้ามาก บางแบรนด์ให้มาเพียง 2 ชั้น แถมยังใส่ไส้ HEPA H12 ซึ่งเป็นรุ่นเก่ามาเสียด้วยซ้ำ
กำลังในการฟอกอากาศของ Safe Airry Flow จะทำได้ที่ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ฟอกอากาศได้ภายใน 9 นาที ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ จะฟอกได้ที่ราว ๆ 190 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และต้องใช้เวลามากถึง 14 นาทีเลยทีเดียวครับ
ฟังก์ชันอื่น ๆ ก็มีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโหมด Sleep, Auto และ Child lock ปรับความแรงพัดลมได้ถึง 4 ระดับ และเรายังตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องได้ด้วย จะเห็นว่าฟังก์ชันอำนวยความสะดวกในการใช้งานนั้นเทียบเท่ากับรุ่นพี่เลยครับ
ความรู้สึกหลังใช้งาน
ทั้ง Safe Airry Extra และ Safe Airry Flow ถือว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่น่าสนใจอีกแบรนด์หนึ่ง ด้วยราคาที่จับต้องได้ คุณสมบัติครบครันและทำออกมาได้ดีกว่าหลาย ๆ แบรนด์ โดยส่วนตัวแอดชอบการเสริมกลิ่นหอมอโรมาเข้ามา ทำให้เราซื้อเครื่องฟอกอากาศมาแบบไม่เสียหลาย ครบจบในการปรับสภาพอากาศในห้องให้น่าอยู่ในทุกวัน
ใครที่สนใจนะครับ สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่
เว็บไซต์ >> www.safe1210.com
Line Official >> @safe1210 หรือคลิก https://bit.ly/49aXnmT
Shopee >> https://bit.ly/46NO9uZ
Lazada >> https://bit.ly/3MkNPMn
App meID >> https://bit.ly/476LufR
You must be logged in to post a comment.