ยังไงช่วงนี้มีผลทดสอบของโน้ตบุ๊กออกมาให้ดูกันบ่อยหน่อยนะครับ เอาเป็นว่าดูไว้เพื่อวางแผนในการซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ พอวางขายปุ๊ปซื้อได้เลยประมาณนั้น
สำหรับวันนี้ผมมีผลทดสอบซีพียู AMD Ryzen 7 4800HS, Ryzen 5 4600H และ Intel Core i7-10750H โดยตัวแรกจะมีแกนประมวลผล 8 Cores/16 Threads ส่วน 2 ตัวหลังจะมี 6 Cores/12 Threads ครับ
ทีนี้คะแนนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยนำข้อมูลจากทวิตเตอร์ @_rogame และ @TUM_APISAK มาประกอบกันได้ดังนี้
3DMark Firestrike Physics (CPU) Score
AMD Ryzen 7 3700X – 23,712
AMD Ryzen 7 4800HS – 21,254
AMD Ryzen 7 2700X – 20,980
AMD Ryzen 7 4800HS – 20,970
AMD Ryzen 5 4600H – 18,565
AMD Ryzen 5 2600X – 18,565
Intel Core i7-10750H – 17,921
AMD Ryzen 5 4600H – 17,466
AMD Ryzen 5 4500U – 10,042
3DMark Time Spy Physics (CPU) Score
AMD Ryzen 7 3700X – 10,180
AMD Ryzen 7 4800H – 8,942
AMD Ryzen 7 4800HS – 8,868
AMD Ryzen 7 2700X – 8,600
AMD Ryzen 7 4800H – 8,730
AMD Ryzen 5 3600X – 7,300
Intel Core i7-10750H – 6,761
AMD Ryzen 5 4600H – 6,699
AMD Ryzen 5 4600H – 6,499
AMD Ryzen 5 4500U – 3,272
จะเห็นได้ว่าคะแนนของ Ryzen 5 4600H แทบจะเทียบเคียง Intel Core i7-10750H เลยหละ ซึ่งหากเทียบตามหลักแล้ว Core i7 ควรจะนำมาเทียบกับ Ryzen 7 มากกว่า แต่จากคะแนนดูเหมือน Ryzen 7 จะทิ้งห่างไปไกลพอสมควร เลยจับแกนเท่ากันมาเทียบละกัน
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลผลทดสอบเทียบระหว่าง Ryzen 5 4600H ที่ใช้งานร่วมกับการ์ดจอ RX 5600M และ GTX 1660 Ti Max-Q พบว่าคะแนนซีพียูที่คู่กับการ์ดจอ RX 5600M ได้เยอะกว่า ในขณะที่คะแนนกราฟฟิกของ GTX 1660 Ti Max-Q ได้เยอะกว่าราว 30%
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตเรื่องแรม ในโน้ตบุ๊ก Ryzen 5 4600H + RX 5600M มีแรมเพียง 8GB ในขณะที่อีกรุ่นมีแรมมากถึง 32GB จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะเกิดอาการคอขวดจากแรมที่น้อยกว่า หากได้แรมเยอะกว่านี้อาจมีโอกาสได้คะแนนกราฟฟิกใกล้เคียงกันก็เป็นได้ครับ ซึ่งมันคือตัวบ่งบอกประสิทธิภาพของเทคโนโลยี SmartShift ที่ AMD พัฒนาเพื่อปรับการใช้พลังงานของการ์ดจอและซีพียู AMD
เอาหละเราน่าจะเห็นถึงความแรงของ Ryzen 4000 APU กันแล้วนะครับ คาดว่าในเร็ว ๆ นี้น่าจะมีวางจำหน่ายครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wccftech
You must be logged in to post a comment.