รีวิว Wiko Ufeel LITE สมาร์ทโฟนรองรับ 4G มีสแกนนิ้ว ราคาสุดคุ้ม แค่ 4,590 บาท

สมาร์ทโฟนที่ราคาต่ำกว่าห้าพันบาท ตอนนี้ในตลาดบ้านเรามีเยอะแยะหลากหลายตัวเลือก แต่มีรุ่นหนึ่งที่โดดเด่น ในเรื่องวัสดุและการรองรับ 4G LTE พร้อมสนับสนุนการใช้งานระบบสแกนนิ้ว( Finger Scan) ที่ไม่ใช่แค่การปลดล็อคหน้าจอ แต่การสแกนนิ้วยังรวมไปถึงเข้าถึงแอ๊พพิเคชั่นต่างๆได้โดยตรง แถมรองรับได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ หน้าจอ HD ที่แสดงผลได้สวยงามในระดับงบประมาณนี้ ที่เกริ่นๆมาทั้งหมดนี้ หาได้ใน Wiko U Feel LITE ครับ เดี๋ยวเราไปดูกันว่ามันน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน

spec Wiko U Feel LITE

หน้าจอ IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 พิกเซล
รองรับเครือข่าย
– GSM 850/900/1800/1900 MHz
– WCDMA 850/900/2100 MHz
– LTE 900/1800/2100 MHz
ใช้งานสองซิม พร้อมกับเพิ่มหน่วยความจำแบบ micro sd
ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
หน่วยประมวลผล MediaTek Cortex-A53 Quad Core ความเร็ว : 1.3 GHz / GPU Mali-T720
ROM 16GB รองรับหน่วยความจำ microSD – สูงสุด 64 GB รองรับ OTG(USB On-The-Go)
RAM 2GB
รองรับระบบ สแกนนิ้ว(Fingerprint Sensor)
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล (Auto Focus) พร้อมแฟลช LED
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
แบตเตอรี่ Li-Pol 2,500 mAh
ราคาขาย 4,590 บาท

แกะกล่องเช็คของ

ตัวกล่องเน้นสีสันสดใส เฟรชชี่ มีความแข็งแรง รายละเอียดบนตัวกล่องบอกชัดเจน ตั้งแต่ชื่อรุ่นยันสเปคคร่าวๆของตัวเครื่อง อุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย

ตัวเครื่อง U Feel LITE ใส่แบตมาให้เรียบร้อยครับ ไม่สามารถถอดแกะเปลี่ยนเองได้นะ
ที่ชาร์ทแบต AC ADAPTER
สายดาต้า
เคสซิลิโคนแบบใสและฟิมล์
ฟิมล์กันรอย
คู่มือ
และที่ขาดไม่ได้สำหรับค่ายนี้คือ ADAPTER SIM

วัสดุและการออกแบบดีไซส์

Wiko U Feel Lite ฝาหลังเป็นวัสดุเป็นโลหะสามารถแกะถอดได้ เพื่อใส่ซิมและเมมเพิ่มครับ ฝาหลังมีความโค้งนมนิดหน่อยเพื่อให้เข้ากับอุ้งมือเวลาหยิบจับ ด้านข้างจะมีการเล่นลวดลายและตัวหนังสือโลโก้แบรนด์เด่นชัด กลึงตัดขอบดูสวยงามและแข็งแรงมากครับ (ฝาหลังแกะยากนิด แลกมากับความสนิทของกริ๊บล็อค)

เมื่อถอดฝาหลังออกจะเจอ ช่องใส่ซิมทั้งสองช่องและช่องเพิ่มหน่วยความจำอีกหนึ่ง แยกกันชัดเจนครับ

ประกอบฝาหลังเสร็จพร้อมใช้งาน ด้านข้างฝั่งขวาจะมี ปุ่มปรับระดับเสียง และถัดลงมาจะเป็นปุ่มเปิด-ปิด

ด้านข้างฝั่งซ้ายตัวเครื่อง ปล่อยโล่งครับ ไม่มีปุ่มใดๆทั้งสิ้น

ด้านบนตัวเครื่อง จะมีพอร์ตเสียบหูฟัง ขนาด 3.5มม.

ด้านล้าง จะเป็นช่องไมค์สนทนาพร้อมกับพอร์ต micro usb

ด้านหน้าตัวเครื่องจะปกคลุมไปด้วยขนาดหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ด้านบนจะมีกล้องหน้าขนาด 5ล้านพิกเซล และไฟแจ้งเตือน ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา และเซนเซอร์ตัดแสง ขวามมือสุด จะเป็นตำแหน่งแฟรชสำหรับกล้องหน้าครับ / ด้านล่างจะเป็นตำแหน่งของ สแกนนิ้ว

ด้านหลังตัวเครื่อง จะมีตำแหน่งเลนส์กล้องหลังถัดลงมาจะเป็นแฟรช LED และโลโก้ที่ปั๊มนูนขึ้นรูปตัวอักษร / ล่างสุดจะเป็นช่องลำโพงตัวเครื่อง

ลำโพงตัวเครื่องครับ เสียงดังมาก ดังจริง เปิดแค่ครึ่งเดียว นั่งทานกาแฟในร้าน มีสายเข้ามา มองมาหาเราจุดเดียวเลย

ระบบปฎิบัติการ

wiko u feel Lite มาพร้อมกับ Android™ 6. 0(Marshmallow) User Interface แบบ Wiko UI ครอบทับอีกที ไม่มี Theme มาให้เปลี่ยนนะครับ ส่วนแอ๊พที่ติดมากับเครื่องแทบไม่มี ต้องลงเองครับ ผมมองเป็นข้อดีนะ ดีกว่าแอบใส่เข้ามาดันลบไม่ได้นี่ แย่เลย , พื้นฐานการเข้าถึงรวมไปถึงการตั้งค่าต่างๆ แทบจะยกของ Marshmallow มาใช้งานทั้งหมดครับ

ประสิทธิภาพการทำงาน

U FEEL LITE ใช้ CPU MediaTek Cortex-A53 Quad Core ความเร็ว : 1.3 GHz / GPU Mali-T720 พร้อมแรม 2 GB (เปิดเครื่องเหลือใช้งานจริงราวๆ 1.1 GB) รอม 16 GB (เหลือใช้งานจริง 10GB) ถ้าไม่พอ สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ micro sd ได้อีกถึง 64GB และยังไม่พอ ตัว U FEEL LITE ยังรองรับ OTG(USB On-The-Go) ได้ด้วยครับ

ความแรงของ CPU/GPU รวมไปถึง RAM/ROM ผมถือว่าให้มาตามราคาหล่ะครับ อาจจะไม่แรงปรื๊ดปร๊าด แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปหรือใช้งานด้านโซเชียลแน่นอน ส่วนเล่นเกมส์โหมด 3D โหดๆ คงไม่เหมาะแน่นอน

หน้าจอ หน้าจอขนาด 5นิ้ว ความละเอียด 1280×720 พิกเซล รองรับ มัลติทัจได้ 5 จุด การแสดงผลถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับ ตามงบเนาะ , ความสว่างของหน้าจอ ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย เพราะจอมีความสว่างถึง 420 นิต ด้วยเทคโนโลยี CABC ช่วยปรับแสงสว่างของวิดีโอและการแสดงหน้าจออัตโนมัติ การเกลี่ยสี ทำออกมาดีครับ และหน้าจอมีแอ๊พให้เลือกปรับได้ละเอียดดี ตั้งแต่ความสว่างของหน้าจอ ยันถึงอุณหภูมิของสี รวมไปถึงขนาดตัวอักษรด้วย

การแสดงผลหน้าจอ ผมให้อยู่ในเกณฑ์ทำงานออกมาดีครับ การทัชของหน้าจออยู่ในระดับรับได้ อาจไม่ลื่นเหมือนพวกเรือธง แต่ก็ลื่นเกินค่าตัวที่มันได้ตั้งไว้ เกณฑ์การให้คะแนนผมจะเน้น ราคาตัวเครื่องเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใจครับ

มัลติมีเดีย

ในตัว U FEEL LITE เครื่องเล่นเพลงสามารถเล่นไฟล์ 24bit ได้เลยในตัวเครื่อง เสียงอยู่ในเกณฑ์ดี มีโหมดเลือกปรับ EQ ให้เลือกปรับ และโหมดการเล่นเกมส์ ดูวิดีโอหรือใช้งาน ยูทูป หน้าจอแสดงผลได้สวยครับ เสียงที่เล่นผ่านลำโพงตัวเครื่องเสียงดังจริง แม้จะมีลำโพงแค่ตำแหน่งเดียวและอยู่ด้านหลังตัวเครื่องก็ตาม แต่เสียงนี่ ดังมาก , และยังมี วิทยุ FM มาให้ใช้งานด้วยนะ

กล้อง

กล้องหน้า ความละเอียด 5ล้านพิกเซล มีแฟรชLED โหมดการถ่ายภาพต่างๆจะมีตามนี้เลยครับ เซลฟี่มุมกว้าง/หน้าสวย/อัตโนมัติ/ภาพซ้อนภาพ และยังมีแฟรชหน้าช่วยในสภาวะแสงน้อยด้วย แจ่มมาก

กล้องหลัง ความละเอียด 8ล้านพิกเซล มีแฟรชLED โหมดการถ่ายภาพจะมี พาโนรามา / กลางคืน / HDR / ภาพซ้อนภาพ / อัตโนมัติ / หน้าสวย / สปอร์ต และสุดท้ายคือ โหมดโปร

ส่วนการถ่ายภาพเคลื่อนไหล จะรองรับการถ่ายภาพได้ถึง 1080p

เป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาต่ำกว่าห้าพัน ที่โหมดการถ่ายภาพเยอะมาก (ภาพถ่ายจาก U FEEL LITE อยู่ท้ายบทความนะครับ)

คุณสมบัติพิเศษ

อันดับแรกเลยคือระบบสแกนนิ้ว สามารถปลดล็อคหน้าจอเร็วถึง 0.48 วินาที และจดจำลายนิ้วมือได้สูงถึง 5 ลายนิ้วมือ และแต่ละนิ้วแยกงานปลดล็อคและเข้าถึงแอ๊พต่างๆโดยตรงได้ไม่ซ้ำกันครับ นี่มันมือถือต่ำกว่าห้าพันนะ ให้มาเยอะมากในระบบ สแกนนิ้ว (บางค่ายค่าตัวเกือบหมื่น ทำงานได้แค่การปลดล็อค)

ตำแหน่งสแกนนิ้ว ยังใช้งานเป็นปุ่ม Home Touch Button ได้ด้วยนะครับ เราสามารถที่จะแสดงหรือไม่แสดงปุ่ม Navigation Bar บนหน้าจอ หรือลบออกไปแล้วมาใช้ปุ่มสแกนนิ้วแทนได้เลย แจ่มอีกแล้ว

เข็มทิศ / Gyroscope มีมาให้ใช้งานครบครับ ใครจะเอาไปจับ โปรเกมอน จัดไปครับเล่นได้แน่นอน บอกทิศทางถูกต้อง สามารถดูภาพถ่ายพวก 360องศา ได้เช่นกัน , รวมไปถึงโหมดการใช้งาน สมาร์ทแอคชั่น เมนูพวกนี้ สมาร์ทโฟนระดับกลางเขาใช้กัน แต่ U Feel Lite ราคาแค่สี่พันกว่าๆ ดันมีมาให้ครบ ผมถือว่าให้มาเกินมากๆ

แบตเตอร์รี่ ขนาด 2,500 mAh ผมใช้ที่ชาร์ทที่ติดมากับกล่อง ทดลองชาร์ทจาก 10-100% ใช้เวลาร่วมๆ ชั่วโมงกับสี่สิบนาที การใช้งานทั่วไปสำหรับผม ใช้งานเช้าๆถึงช่วงบ่ายสามโมง ต้องเริ่มมองหาที่ชาร์ทใหม่ (การใช้งานอาจแตกต่างกันออกไปนะครับ ระยะแบตก็จะแตกต่างกันเช่นกัน) การแสดงหน่วยตัวเลขสถานะแบต ยังแจ้งไม่ค่อยตรง บางทีลดฮวบเลย ลดแบบตกใจ แต่ใช้งานได้ยาวนานเช่นเดิม ช่วง 90% จะลดเร็ว มาหยุดราวๆ 50% เริ่มนิ่งหล่ะ ต้องรอทาง wiko ออกเฟริมแวย์มาแก้ไขจุดนี้ครับ

สรุป

ด้วยค่าตัวที่ถูกตั้งมาที่ 4,590 บาท แล้วมันรองรับ 4G LTE , มันรองรับระบบสแกนนิ้วที่ฉลาดมากๆ ยังใช้งานเป็นปุ่ม Home/Back ได้อีก , หน้าจอสวยงาม , วัสดุที่ดูดีสวยงามและแข็งแรง แค่นี้ก็เกินค่าตัวแล้วนะสำหรับเงินที่จ่ายออกไปแล้วครับ คุ้มแน่นอน

ข้อสังเกตุ คงเป็นเรื่องการแสดงผลของแบตเตอรี่ อาจยังต้องแก้ไขจุดนี้ และกล้องโฟกัสไม่ค่อยแม่นเมื่อเจอแสงน้อยๆ

ภาพถ่ายจาก Wiko U Feel LITE เนื่องจากวันที่ผมเที่ยว บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ต้องเน้นถ่ายด้วยโหมด HDR เป็นหลักครับ ภาพจะออกมาประมาณนี้ครับผม

(ลุงยามขอกราบลาเพียงเท่านี้เด้อ ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ครับผม)

ขอขอบคุณ Wiko thailand ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ ที่ให้ยืมเครื่องมาทดลอง ขอบคุณมากครับ