ราคาสินค้าของ solid-state drives (SSDs)ในตลาดโลกตอนนี้เริ่มที่จะดิ่งลงอีกจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำในโลกประมาณ 12% จากไตรมาศที่แล้ว และ ทำให้ราคาระหว่าง SSDs กับ HDD อยู่ใกล้กันมาก ในไตรมาศแรกของปีนี้นั้น ในรุ่นพื้นฐานที่เป็น MLC-based และ TLC-based SSDs เรื่มที่จะเห็นราคาที่ลดลงตั้งแต่ 10%-ถึง-12% และ 7% ถึง-12% หากมองดูตัวอย่างขนาดบรรจุ 128GB SSD ราคาทั่วไปจะอยู่ที่ $38 และ $49 (ที่ Amazon price). และขนาดความจุที่ 250GB SSD ราคาทั่วไปจะอยู่ที่ $52 ถึง $81 (ที่ Amazon price)
หากสังเกตุดีๆ ตั้งแต่ มิถุนายน ปีที่แล้ว ราคาทั่วไปจะต้องอยู่ที่128GB SSD ราคา $91.55 สำหรับตัว SSD และ ในขนาดความจุที่ 240GB ถึง 256GB ราคาจะตกอยู่ที่ $165.34 จากแหล่งข่าวของ DRAMeXchange นั้น สังเกตุเอาไว้ว่า ราคาที่ต่างกันระหว่าง 128GB SSDs และ 500GB HDDs น่าจะตกลงได้อีกไม่ต่ำกว่า $3 ในปีนี้ และราคาระหว่าง 256GB SSDs และ 1TB HDDs น่าจะตกไปที่ $7. หากเทียบเป็นต้นทุนต่อ gigabyte ของตัว SSDs ก็ยังแพงกว่าถึง 4 เท่าหากเทียบกับตัว HDDs.
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ SSD
ในตลาดของ SSDs ที่ความจุขนาด 250GB ถึง 500GB น่าเป็นที่จับมองและน่าสนใจที่สุดระหว่างปี 2016 และ 2022.
ราคาของตัวพื้นฐานที่เป็น TLC (triple-level cell) SSDs ไม่ได้ร่วงลงมาเหมือนกับตัวพื้นฐานที่เป็น MLC (multi-level cell) เป็นเพราะว่าผู้ผลิต SSD ส่วนใหญ่นั้นเพิ่งเริ่มจะออกวางตลาด (ยกเว้น Samsung ) ในด้านความแตกต่างระหว่าง พื้นฐานของ SSDs สองตัวนี้ก็คือ ทางด้าน TLC SSDs จะสามารถเก็บ 3 bits (ข้อมูล) ต่อ NAND flash cell แต่ตัว MLC SSDs จะทำได้ 2 bits ต่อ cell และการใช้ SSD ใน laptop computers ก็จะเพิ่มมากขึ้นถึง 30% ในปีนี้แน่นอน โดยหากมองตลาดโดยรวมแล้ว ตลาดของ SSD จะเติบโตมากขึ้นถึง 9.5% ในปีนี้จนถึงปี 2022 จากมูลค่าที่ $13.29 billion ถึง $25.3 billion
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัว SSD มีความต้องการมากขึ้นมาจากการมาของระบบ cloud computing, ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าตัว HDDs, ศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น และในส่วนของ data applications ที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นนั้นเอง
SATA my name
ประโยชน์ทางด้าน SSDs ที่ใช้ SATA interface, ที่งายต่อตัว notebook และ desktop ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนจาก HDDs ไป flash ได้ง่าย และมันจะเพิ่มมากขึ้น ของการใช้ SSD ต่อไปอีก 6 ปีข้างหน้า และประโยชน์ทางด้านนี้ยังทำให้ต้นทุนการปรับเปลี่ยนนั้นถูกลงอีก เมื่อเปรียบเทียบกับตัว serial attached SCSI (SAS) และ PCIe interfaces ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งในส่วนของ SATA segment
ในด้านตลาดของ SSDs ที่เป็น PCIe interfaces ที่ใช้ในกลุ่มผู้ผลิต laptop ได้แก่ Apple ที่ติดตั้ง flash โดยตรงไปยัง motherboard ก็จะโตขึ้นเช่นกันในอีก 6 ปีข้างหน้า ด้วยตัวเลขการเติบดตขนาดนี้จะส่งเสริมการพัฒนาของตัว PCIe, ให้ดีมากขึ้นในด้าน ความเร็ว ประสิทธิภาพ การป้องกันข้อมูลให้ดีมากขึ้น และในความต้องการของ SSDs ที่เป็น PCIe interface ก็จะเพิ่มตามไปด้วย ตัวเล่นหลักในตลาดของ ,SSD เห็นจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก Samsung โดยเฉพาะในปีนี้ ด้วยประโยชน์ทางด้านราคาและต้นทุนนั้น ตัวพื้นฐานที่เป็น TLC-based SSDs ทีเป็น 3D-NAND flash ที่ใช้รหัสเรียกว่า V-NAND.จาก Samsung ก็จะได้เปรียบ (V-NAND stacks silicon cells สามารถเรียงเป็นชั้นได้ถึง 48-layersเพื่อเพิ่มความสามารถในความจุ เท่ากับ ต้นทุนที่ถูกลง)และทาง Samsung Electronics เพิ่งประกาศออกมาว่า ได้เริ่มส่งตัว SSD, the 15.36TB PM1633a, ที่เป็น V-NAND TLC flash memory ที่มีความจุใหญ่ที่สุดในโลก
ในด้านผู้ผลิตรายอื่นของตัว SSDs makers, ได้แก่ SanDisk, Liteon, Toshiba และ SK Hynix, ก็กำลังตาม อยู่เหมือนกันด้วย ตัวสินค้าที่เป็น 15nm และ 16nm process TLC SSDs ในด้านการผลิตนั้นบริษัทส่วนใหญ่จะมีเทคนิคเป็นของตัวเองที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร และเพิ่งเริ่มจะผลิดจำหน่าย แต่ทางด้าน Samsung นั้นไม่เป็นเช่น ตอนนี้ วางตลาดไปแล้ว และกระบวนการผลิตก็เป็นแบบอุตสาหกรรม หรือ Mass Product ไปแล้วในส่วนของ 3D NAND SSD
ที่มาเครดิต computerworld
You must be logged in to post a comment.