OPPO Enco Q1 Wireless Noise Cancelling Headphones หูฟังไร้สายแบบคล้องคอรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง OPPO มีวางจำหน่ายแล้วกับค่าตัวเพียง 2,990 บาท เดี๋ยวเราไปดูจุดเด่นพร้อมๆกันครับว่า OPPO Enco Q1 จะน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน คุ้มไหมกับค่าตัวเกือบสามพันบาท
SPEC OPPO Enco Q1 Wireless Noise Cancelling Headphones
- Driver 11.8 mm dynamic driver
- Impedance 32 Ω
- Driver sensitivity 99 dB @ 1kHz
- Frequency response range 20 Hz — 20 kHz
- Bluetooth version 5.0
- Wireless range 10 m.
- Music play time (50% volume) 15 h (ANC ON) / 22 h (ANC OFF)
- Standby time 22 h (ANC ON) / 300 h (ANC OFF)
- Charging time 2h.
- Charging port USB Type-C
- Water resistance IPX4
- Weight 42 g
แกะกล่องเช็คของ
ตัวกล่องจะแจ้งรายละเอียดคร่าวๆมาให้ทราบทั้งด้านหน้ากล่องและด้านหลัง
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้ ตัวหูฟัง / จุ๊ปสำรอง 3 ขนาด / สาย USB Type-C / คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
ตัวหูฟังมีน้ำหนักรวม 42 g. ถือว่าเบามากๆ ก้านหูฟังหรือสายคล้องคอแบบชิ้นเดียวสามารถบิดงอได้ วัสดุแบบ TPU (Thermoplastic polyurethanes)ภายในจะเป็นโลหะผสมไททาเนียม ทนทานต่อการบิดงอและไม่แข็งกระด้างเวลาสวมใส่และคืนสภาพได้รวดเร็ว
ชุดครอบไดร์เวอร์จะเป็นโลหะและมีแม่เหล็กที่สามารถดูดติดกันได้เวลาเลิกใช้งาน มาตราฐานป้องกันน้ำระดับ IPX4 สามารถนำออกไปใช้งานขณะออกกำลังกายได้ครับ ปกป้องเหงื่อได้
ไดร์เวอร์มีขนาด 11.8 มม. มีความละเอียดสูงด้วย PEEK + PU composite diaphragm ให้คุณภาพเสียงชัดเจนดีมาก หูฟังยังรองรับตัวแปลงสัญญาณ AAC อีกด้วย
ระบบตัดเสียงรบกวนเทคโนโลยี hybrid ANC (การลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ) คือการตัดเสียงจากไมโครโฟนแบบ Feed Forward (FF) และ Feed Back (FB) จะมีไมค์ฝังอยู่ข้างๆไดร์เวอร์ทั้งสองฝั่งเพื่อจับสัญญาณเสียงข้างๆ และไปประมวลผลในการตัดเสียงรบกวนออกไปครับ
ชิปประมวลผลในการตัดเสียงรบกวนจะอยู่ด้ามซ้ายมือ ตัดเสียงรบกวนได้แม่นยำและแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เสียงชัดเจนทั้งฟังเพลงและคุยสาย
ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งควบคุมต่างๆรวมไปถึงพอร์ตเชื่อมต่อเวลาชาร์จแบต / ส่วนฝั่งขวาจะเป็นตำแหน่งของแบตเตอรี่
พอร์ตการเชื่อมต่อสำหรับชาร์จไฟจะเป็นพอร์ต USB Type-C อยู่ด้านฝั่งซ้ายของชุดหูฟัง
ปุ่มควบคุมจะมีทั้งหมด 3 ปุ่ม และไฟแสดงสถานะ ปุ่มจะทำหน้าที่ดังนี้
หรือขณะเชื่อมต่อเสร็จ เมนูแนะนำจะแจ้งวิธีการใช้งานแบบละเอียดให้ทราบครับ ตั้งแต่การเปิด-ปิดเสียงรบกวน / การปรับตั้งค่าเสียงซึ่งปรับได้ 3 แบบ และการใช้งานร่วมกับ Voice Assistant
หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานมาซักระยะ ผมขอรวบรวมข้อดีและความประทับใจมาให้เป็นข้อๆหล่ะกันครับ
- คุณภาพเสียงถือว่าดีใช้ได้เลย แม้จะเปิด Noise Cancelling
- การทำงานของ Noise Cancelling ดีมากๆ มันจะคอยจับเสียงรบกวนข้างนอกให้แล้วค่อยมาประมวลผลในการตัดเสียงรบกวนออก
- สามารถปรับแต่งเสียงได้ 3 โหมดเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละประเภท เช่น โหมดเกมส์ / โหมดภาพยนตร์ และโหมดฟังเพลง
- มีตัวช่วยให้คุณภาพเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น (รองรับตัวแปลงสัญญาณ AAC)
- เสียงพูดคุยสัญญาณมือถือชัดเจนดี ทั้งต้นสายและปลายสาย
- รองรับการใช้งานผ่าน Voice Assistant
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth version
- ป้องกันน้ำระดับ IPX4
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- ชุดหูฟังมีน้ำหนักเบา และก้านหูฟังวัสดุดีมากๆ รองรับการบิดงอและคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน (สแตนบายได้ 300 ชั่วโมง / ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 22 ชั่วโมง)
- รับประกัน 1 ปีเต็ม
จุดที่น่าสังเกตุ
- ระยะเวลาชาร์จแบตนานไปนิด เกือบ 2 ชั่วโมง
You must be logged in to post a comment.