รีวิว ZTE BLADE V7 Max สมาร์ทโฟน V Series รุ่นใหม่ล่าสุด บอดี้โลหะเรียบหรู หน้าจอ Full HD 5.5 นิ้ว พร้อมระบบเสียง DTS

กราบสวัสดีกันอีกครั้งครับ รอบนี้ผมมาพร้อมกับรีวิวเจ้า ZTE BLADE V7 Max สมาร์ทโฟน V Series รุ่นใหม่ล่าสุด จอใหญ่ขึ้น บอดี้โลหะ เรียบหรูสวยงาม พร้อมระบบเสียง DTS ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน ตามไปเลยครับ.

spec ZTE BLADE V7 Max

จอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล
CPU Octa Core 1.8GHz, Mediatek Helio P10
RAM 3GB
ROM 32GB รองรับ Micro SD 128GB
Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย MiFavor UI 3.5
รองรับ 4G LTE Cat 4 150/50Mbps
รองรับสองซิม นาโนซิม + นาโนซิม / Micro SD Card
กล้องหน้า 8 MP
กล้องหลัง 16MP ระบบโฟกัสแบบ PDAF และมี ระบบกันสั่น
ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Finger Print)
ระบบเสียง DTS
รองรับการถ่ายโอนข้อมูลกับ Flash Drive โดยตรง OTG (USB On-The-Go)
แบตเตอรี่ 3,000mAh USB Type C
ขนาดตัวเครื่อง 154×76.5×7.2 มม.
ราคา 8,990 บาท

แกะกล่องเช็คของ

กล่อง ZTE BLADE V7 Max จะเป็นโทนดำล้วนครับ วัสดุเป็นกระดาษ ลงรายละเอียดชื่อรุ่นให้ทราบอย่างชัดเจน

แกะกล่องออกมา แสดงความออร่าออกมาให้เห็น ตัวเครื่องมีแสดงรายละเอียดให้ทรบจุดเด่นๆไว้แทบหมด

อุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย

ตัวเครื่อง
ที่ชาร์ทแบต
สายชาร์ทหรือโอนถ่ายข้อมูลแบบ USB Type C
หูฟังแบบอินเอียร์
เคสใสแบบพลาสติก
เข็มจิ้มซิม
และสุดท้าย คู่มือการใช้งานครับ

วัสดุและการออกแบบ

การออกแบบทั่วไปดูเรียบๆง่ายๆแต่แอบแฝงความหรูหรามาด้วยวัสดุบอดี้แบบโลหะและผสมผสานกับกระจกหน้าจอแบบโค้ง 2.5D ถึงจะมีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว และให้แบตมาถึง 3,000 mAh แต่ตัวเครื่องเพรียวบางแค่ 7.2 มม.เท่านั้น

ด้านหลังตัวเครื่อง ออกแบบมาดูเรียบๆและมีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash และมีโลโก้ ZTE ฝาหลังเกือบทั้งหมดเป็นโลหะชิ้นเดียว แต่จะมี หัวและท้ายที่เป็นพลาสติก เพื่อรับสัญญาณมือถือครับ

ด้านบนเหนือส่วนหน้าจอ มีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล ตรงกลางเป็นลำโพงสำหรับสนทนา และ เซนเซอร์

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มสั่งงาน ที่สามารถสลับปุ่มด้านข้างระหว่าง Back กับ Recent ได้ และตรงปุ่ม Home วงกลมมีไฟแสดงสถานะให้ครับ

ฝั่งขวามีปุ่ม Power และ สแกนลายนิ้วมือ ตรงสแกนนิ้วไม่สามารถกดลงได้นะครับ แค่ไว้สแกนนิ้วเท่านั้น

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง และช่องไมค์ตัดเสียงรบกวนเวลาสนทนา

ด้านข้างฝั่งซ้าย มีช่องใส่ซิมการ์ดและปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มแน่นหนาดี

ด้านล่างมีช่องเสียบชาร์ทไฟหรือโอนถ่ายข้อมูลแบบ USB Type C พร้อม ไมโครโฟน และฝั่งขวาจะเป็นช่องลำโพงตัวเครื่อง

ระบบปฏิบัติการ

ZTE BLADE V7 Max มาพร้อมกับ Android 6.0 Marshmallow ที่ครอบทับด้วย MiFavor UI 3.5 หลักการใช้งานทั่วไปหน้าแม้แต่การปรับตั้งค่า ยังยึด Marshmallow ไว้ทั้งหมด ไม่มีธีมมาให้เปลี่ยนนะครับ

ประสิทธิภาพการทำงาน

ZTE BLADE V7 Max ใช้ CPU MediaTEK Heilo P10 Octa Core 1.8GHz ผมได้ทดลองความแรงกับแอ๊พยอดนิยมจะได้ผลออกมาตามรูปเลย ส่วนการใช้งานจริงเอาไปเล่นเกมส์โหดๆในโหมด 3D สวยๆ ถือว่าลื่นพอได้ เล่นเกมส์ใหม่ๆได้แน่นอน อาจจะไม่ลื่นเหมือนพวกเรือธง แต่ก็ยังพอเล่นไหวครับกับความละเอียดหน้าจอ FHD เวลาเล่นเกมส์นานๆ ความร้อนก็ออกมาบ้างด้านหลังตัวเครื่อง แต่ก็ระบายได้เร็ว และเล่นได้ยาวนานขึ้นเพราะให้แบตมาขนาด 3000 mAh เล่นเกมส์ได้หลายชั่วโมงเลยครับ สำหรับคนที่ต้องการเอาไปเล่นเกมส์

RAM 3GB จะเหลือไว้ใช้งานจริงราวๆ 1.3GB ความจำในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย Micro SD สูงสุด 128GB รองรับ OTG เวลาใช้งานจริง การจัดสรรทรัพยากรแรม ทำได้ดีครับ ผมใช้งานร่วมอาทิตย์ แทบไม่แฮ็งค์หรือต้องมานั่งกดเคลียร์แรมเลย ในเลทราคานี้ถือว่าให้มาเยอะเลย ทั้งแรมและหน่วยความจำหลัก

หน้าจอ ZTE BLADE V7 Max มีขนาดหน้าจอที่ 5.5 นิ้ว เลือกใช้หน้าจอแบบ IPS ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล การแสดงผลได้สวยงามมาก ผมชอบเลยนะ การเกลี่ยสีรวมไปถึงการทัชหน้าจอ ทำออกมาได้ดีจริง และสามรถปรับหน้าจอผ่านแอ๊พ MiraVision ได้เลย ชอบโทนสีแบบไหน เลือกปรับตามใจแถมละเอียดดี เรื่องหน้าจอ ผมชอบจริง ยอมรับเลยว่าสวยงาม แม้มันจะรองรับมัลติทัชแค่ 5 จุด แต่การทัชนี่ ลื่นนิ้วมือดีแท้

ระบบเสียง เสียงสนทนาผ่านลำโพงหูฟังรวมไปถึงไมค์ดูดเสียง เสียงชัดเจนดี ส่วนลำโพงตัวเครื่องจะอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง แม้เวลาวางกับพื้นระนาบ เสียงก็ออกมาได้ดังมากๆ เสียงออกไปโทนแหลมๆหน่อย แต่ดังแบบโลกแตก ดังจริง

กล้องถ่ายภาพ กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสแบบ PDAF และมี ระบบกันสั่น โหมดการถ่ายภาพอาจจะน้อยไปนิด เน้นการใช้งานแบบ auto ส่วนคุณภาพของรูปถ่ายออกมา อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ความคมชัดของภาพ การเก็บรายละเอียดต่างๆ คงไม่ไปสู้ axon ได้ครับเอาเป็นว่า ถ้าเน้นการใช้งานสะดวกและง่าย ตัวนี้น่าจะเหมาะ (รูปถ่ายจาก ZTE BLADE V7 Max อยู่ท้ายบทความ)

โหมดการถ่ายวีดีโอ สามารถถ่ายได้สูงสุดความละเอียด FHD 1080P ภาพออกมาได้ดีครับ แต่เสียงเวลากดอัดจะเบาไปนิด

มัลติมีเดีย ZTE BLADE V7 Max มาพร้อมกับระบบเสียง DTS ใช้งานได้ทั้งการฟังเพลงและดูหนัง เพื่อเพิ่มอัฐรสในการรับฟัง แต่มันดันไม่มีอะไรให้ปรับตั้งค่าซะงั้น นอกจากเปิด-ปิด ระบบการทำงาน

เวลาดูหนังระบบเสียง DTS เสียงดีจริง มิติของเสียงมาครบถ้วน หน้าจอที่เคยแจ้งว่ามันสวยงาม เมื่อเวลาดูหนังไฟล์ใหญ่ๆความละเอียดสูงๆ จะรู้เลยว่าสวยจริงไร้ที่ติ

แอ๊พในตัวเครื่องสำหรับการฟังเพลง จริงๆมันสามารถแจ้งรายละเอียดได้ครบนะครับ ทั้งชื่อเพลงหน้าปกรวมไปถึงภาษาต่างๆ แต่พอดีหลีกเลี่ยงเรื่องลิขสิทธิ์ ผมเลยตัดมันออกไปเท่านั้น ส่วนในตัวเครื่องก็มี FM มาให้ใช้งานเช่นเดิม

คุณสมบัติพิเศษ

สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner Unlock) ตำแหน่งปุ่มสแกนนิ้วอยู่ด้านข้าง สำหรับคนที่ถนัดขวามือ อาจจะใช้งานถนัดจริง แต่คนที่ถนัดซ้ายคงต้องหาวิธีกันเองนะ ปุ่มสแกนอ่านลายนิ้วมือได้เร็วครับ ไม่ต้องกระตุ้นหน้าจอก่อนปลดล็อคก็ได้ แค่แต่นิ้วลงไปก็พร้อมเข้าโหมดการทำงานของตัวเครื่องได้เลย และเหนือไปกว่านั้น มันยังจดจำลายนิ้วมือได้สูถึง 5 ลายนิ้วมือ แต่ละลายนิ้วมือ สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ว่าจะเข้าสู่แอ๊พโดยตรงเลยไหม ก็สะดวกดี

การตั้งค่าโหมดการใช้งานผ่านหน้าจอ (เกสเจอร์) การวาดนิ้วในรูปแบบต่างๆผ่านหน้าจอขณะหน้าจอดำเพื่อเข้าถึงแอ๊พ รวมไปถึงการเคาะกระตุ้นหน้าจอเพื่อเปิดใช้งาน และการสลับตำแหน่ง ซ้าย-ขวา ของปุ่ม Back กับ Recent ได้ , การตั้งค่าปุ่ม Home เพื่อให้แสดงไฟสถานะ รวมไปถึงการปรับตั้งขนาดตัวหนังสือ

การปรับตั้งค่าต่างๆได้ละเอียดจริง บางท่านอาจไม่ค่อยได้ใช้งานในส่วนนี้อาจจะมองไม่จำเป็น แต่ก็มีอีกกลุ่มที่ต้องการใช้งานในส่วนนี้ครับ มีไว้ใช้งานดีกว่าขาดเนาะ

ข้อดี

ถึงแม้ในกล่องจะแถมที่ชาร์ทมาแบบธรรมดาทั่วไปมาให้ใช้งาน แต่ผมลองเอาที่ชาร์จเร็ว Pump Express Plus ตัวเครื่องมันกับรองรับซะงั้น ลองชาร์จดู จาก 10-100% ใช้เวลาราวๆ 1.20 ชั่วโมงเท่านั้นครับ
แบตเตอร์ 3,000 mAh ใช้งานจริง อึดมากๆ ใช้งานเช้าจรดเย็นได้เลย
หน้าจอแสดงผลได้สวยงาม
รองรับการเชื่อมต่อแบบใหม่ USB Type C
มาพร้อมกับระบบเสียง DTS
มีระบบ สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner Unlock)
ตัวเครื่อง วัสดุดูดีและดูพรีเมี่ยมดี ตัวเครื่องบางเพียง 7.2 มม. เท่านั้น

จุดสังเกตุ

การปรับตั้งค่า ธีมต่างๆในตัวเครื่อง ไม่มีมาให้ใช้งานเพิ่ม
สแกนนิ้วอยู่ด้านข้าง อาจจะสะดวกสำหรับคนที่ถนัดขวา ส่วนคนที่ถนัดซ้ายอยากให้ไปลองกดและสัมผัสดูก่อนว่าจะเคยชินไหม
กล้องทั้ง หน้า/หลัง มีโหมดมาให้น้อยไปนิด และกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เวลาถ่ายภาพออกมา ภาพยังไม่คมกริ๊บเท่าที่จะเป็น